ลงทุนเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม
?
“เงินลงทุน”
ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง
ถ้าไม่มีเงิน ก็ไม่สามารถที่จะลงทุนได้
การกำหนดจำนวนเงินลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการลงทุน
เพราะการนำเงินออมหรือเงินสำหรับการใช้จ่ายมาลงทุนมากเกินไป
อาจทำให้เราประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง
กดดันตัวเองมากเกินไป
ในขณะที่การจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนที่น้อยเกินไป อาจทำให้เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนตามที่ควรจะได้รับ ซึ่งการจัดสรรเงินสำหรับการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมจะทำให้การลงทุนของเราเป็นไปอย่างสมดุล
ข้อควรคำนึงในการจัดสรรเงินเพื่อการลงทุน
คือ ต้องวางแผนและจัดการกับความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน
ตลอดจนภาระ
ทางการเงินด้านอื่นๆ ที่ตนเองมีอยู่ในชีวิตให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งได้แก่.
ทางการเงินด้านอื่นๆ ที่ตนเองมีอยู่ในชีวิตให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งได้แก่.
1.เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน
ถือเป็นเงินก้อนแรกที่คุณควรจะกันออกจากรายได้
เพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
โดยผู้เชี่ยวชาญทางการเงินต่างเห็นพ้องต้องกันว่า
คนเราควรมีเงินเก็บสำรองไว้เผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
เท่ากับค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมกัน3
- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
ยกตัวอย่างเช่น
หากเรามีภาระค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ
10,000 บาท
เราก็ควร
ที่จะมีเงินเก็บสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้อย่างน้อย
30,000 - 60,000 บาท
ซึ่งเงินสำรองดังกล่าวนี้ควรเก็บอยู่ใน
รูปแบบการออมที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
และมีสภาพคล่องสูง
โดยสามารถเบิกใช้ได้ในทันทีที่เราต้องการเช่น
ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารพาณิชย์
เป็นต้น
2.เงินสำหรับใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต
เป็นรายการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินชีวิตของคุณและครอบครัว
ซึ่งได้แก่ ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์
ค่าเดินทาง
ค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
ค่าพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
ถือเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้
เพราะเป็น
ส่วนที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน
3.ภาระหนี้สิน
เป็นรายการที่เกิดขึ้นในกรณีที่มีการกู้ยืมเงิน
จึงเป็นพันธะผูกพันทางการเงินตามกฎหมายที่ผู้กู้จะต้องรับผิดชอบโดยต้องจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ได้ระบุอยู่ในสัญญาการกู้ยืม
หากเรากู้ยืมเงินและไม่ปฏิบัติตามสัญญา
อาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาภายหลังได้
เช่น ถูกยึดทรัพย์สิน
หรือถูกฟ้องล้มละลาย เป็นต้น
4.เงินประกัน
เป็นรายการที่เกิดขึ้นในกรณีที่เราต้องการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนหรือความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
ในอนาคต
เช่น เงินประกันชีวิต
เงินประกันอุบัติภัย
เงินประกันสุขภาพ เป็นต้น
จัดเป็นส่วนที่ใช้สำหรับสร้างหลักประกันในชีวิตให้แก่ทั้งตัวคุณและครอบครัวได้เป็นอย่างดี
5.เงินสำหรับแผนในอนาคต
เป็นเงินอีกส่วนหนึ่งที่มีไว้สำหรับแผนการต่างๆ
ที่เราคาดหวังเอาไว้ในอนาคต
ซึ่งขึ้นอยู่กัสถานการณ์
ความต้องการ
และความจำเป็นของตัวเราเองเป็นหลัก
เช่น เงินสำหรับการศึกษาต่อ
เงินสำหรับการศึกษาของบุตร
เงินสำหรับดาวน์บ้านหรือต่อเติมบ้าน
เป็นต้น แน่นอนว่า...
หากเรามีแผนการที่ชัดเจนเหล่านี้อยู่ในใจ
ก็ควรที่จะวางแผนเก็บเงินเพื่อทำให้แผนการนั้นๆ
เสร็จเรียบร้อยไปเสียก่อน
สิ่งสำคัญคือ
ไม่ควรมีความคิดจะใช้เงินที่ได้รับจากการลงทุน
มาใช้เพื่อจัดการกับภาระทางการเงินดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากการลงทุนใดๆ
ย่อมมีความไม่แน่นอนแฝงอยู่เสมอ
และอาจทำให้เราประสบกับปัญหาทางการเงินได้
โดยเงินที่นำมาลงทุนควรเป็น
“เงินส่วนที่เหลือ”
หลังจากที่คุณได้เตรียม
การขั้นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต
รวมถึงจัดการกับภาระทางการเงินด้านอื่นๆ
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
http://health-tu.blogspot.fr/
http://health-tu.blogspot.fr/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น